มะขามป้อม

มะขามป้อม

มะขามป้อม ชื่อสามัญ Indian gooseberry

ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus emblica L. จัดอยู่ในวงศ์มะขามป้อม (PHYLLANTHACEAEPHYLLANTHACEAEPHYLLANTHACEAEมะขามป้อมมะขามป้อม)

มะขามป้อมเป็นสมุนไพรที่ชาวอินเดียใช้มาหลายพันปีแล้ว เพราะเป็นยาอายุวัฒนะซึ่งชาวอินเดียเรียกสมุนไพรหรือผลไม้ชนิดนี้ว่า Amalaka แปลว่า “พยาบาล” สะท้อนให้เห็นว่าสรรพคุณของมะขามป้อมนั้นมีมากมายเหลือเกิน และเป็นผลไม้ประจำจังหวัดสระแก้วอีกด้วย

มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและเป็นสมุนไพรพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่ง เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีสูงมาก โดยประโยชน์มะขามป้อมหรือสรรพคุณมะขามป้อมนั้นมีมากมาย และยังใช้เป็นยารักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย เพราะมะข้ามป้อมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร เป็นต้น และคุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีในน้ำคั้นจากผลของมะข้ามป้อมนั้นมีมากกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ 20 เท่า ซึ่งมะขามป้อมลูกเล็ก ๆ 1 ผล จะมีปริมาณวิตามินซี เท่ากับส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว พบได้ทั่วไปในป่าเขตร้อนของทวีปเอเชียตอนใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ แถบภาคกลางและใต้ของอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ ศรีลังกา จีน มาเลเซีย เมียนมาร์ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ในประเทศไทยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มักขึ้นในธรรมชาติในป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าแดงประเทศ แต่มีมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การกระจายพันธุ์เกิดจากการที่เมล็ดร่วงลงดิน หรือมีสัตว์ป่ามากินแล้วคายเมล็ดไว้

มะขามป้อมเป็นพันธุ์ไม้ที่ทนแล้วได้ดี เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8 – 20 เมตร ขนาดโตวัดรอบไม่เกิน 80 เซนติเมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกค่อนข้าเรียบเกลี้ยง สีน้ำตาลอ่อน เปลือกในสีชมพูสด เรือนยอดรูปร่ม
• ใบน้ำมะขามป้อมมีใบเป็นช่อ แต่ละช่อมีใบย่อยเล็กๆ รูปขอบขนานติดเป็นคู่ๆ เยื้องๆ กัน ปลายใบมน มีรอยหยักเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ สีเขียวอ่อน กว้าง 0.25 – 0.50 เซนติเมตร ยาว 0.8 – 1.2 เซนติเมตร เรียงชิดกัน ก้านใบสั้นมาก ใบย่อยจำนวน 22 คู่ เส้นใบไม่ชัดเจน เส้นกลางใบเห็นได้รางๆ
• ดอกมะขามป้อม มีดอกเล็ก สีขาวนวล แยกเพศกัน แต่เกิดบนกิ่งและต้นเดียวกัน ออกดอกตามง่ามใบ 3 – 5 ดอก มีกลีบรองดอก 6 กลีบ ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ 3 อัน ฐานรองดอกมี 6 แฉก ดอกเพศเมีย มีฐานรองดอกเป็นรูปถ้วย ขอบถ้วยหยัก รังไข่มี 3 ช่อง หลอดท่อรังไข่ปลายแยกเป็น 2 แฉก ไม่เท่ากัน
• ผลมะขามป้อม กลม มีเนื้อหนา เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 – 2 เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อน ผลแก่มีสีเขียวค่อนข้างใส มีเส้นริ้วๆ ตามยาวพอสังเกตได้ 6 เส้น เนื้อกินได้ มีรสฝาด เปรี้ยว ขม และอมหวาน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง 6 สัน มี 6 เมล็ดใน 1 ผล
• ระยะเวลาในการออกดอกและเป็นผล ประมาณเดือนกันยายน และเป็นผลประมาณเดือน พฤศจิกายน –ธันวาคม-มกราคม-กุมภาพันธ์

มะขามป้อม
น้ำมะขามป้อม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

จากงานวิจัยมะขามป้อม การศึกษาพิษกึ่งเฉียบพลันในหนูถีบจักร เมื่อให้สารสกัดด้วยน้ำของใบมะขามป้อมในขนาด 0.1 และ 0.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เป็นเวลา 10 สัปดาห์ พบว่าไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของหนู แต่พบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักอวัยวะภายในของหัวใจ ปอด ตับและมีการเพิ่มของระดับ SGPT ในซีรั่ม เมื่อให้สารสกัดแก่หนูถีบจักรทางปากในขนาด 20 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ไม่เกิดอาการพิษในสัตว์ทดลอง และเมื่อฉีดสารสกัดทางช่องท้องของหนูถีบจักร พบว่าขนาดที่ทำให้หนูถีบจักรเพศผู้ตามครึ่งหนึ่ง (LD₅₀) เท่ากับ 0.415 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ส่วนหนูถีบจักรเพศเมียมีค่าเท่ากับ 0.288 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

เนื่องจากมะขามป้อมมีรสเปรี้ยว รสฝาด อาจจะรับประทานยากสักหน่อยสำหรับบางคน การรับประทานมะขามป้อมนั้นควรปรุงรสให้อร่อยด้วยการนำมะขามป้อมมาผ่าเอาเมล็ดออกให้เหลือแต่เนื้อ แล้วนำมาใส่ พริก เกลือ น้ำตาล นำมาตำพอแหลกก็ใช้ได้ แต่ทั้งนี้ควรรับประทานก่อนนอนหรือช่วงตื่นนอนใหม่ ๆ หรือขณะที่ท้องว่าง สำหรับวิธีลดความฝาดของมะขามป้อมนั้นทำได้โดยการนำไปแช่น้ำเกลือ ด้วยการนำมะขามป้อมมาล้างให้สะอาดและลวกด้วยน้ำร้อน แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือที่เค็มจัด ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน รสฝาดก็จะหายไป

สมุนไพร มะขามป้อม
น้ำมะขามป้อม ชุ่มคอ ยาน้ำแก้กระหายช่วยในการละลายเสมหะ

ประโยชน์ของที่จะได้รับจากน้ำ มะข้ามป้อม

  1. นิยมนำมารับประทานเพื่อให้สดชื่น ชุ่มคอ แก้กระหาย
  2. วิตามินซีในมะขามป้อมสามารถดูดซึมได้เร็วกว่าวิตามินซีชนิดเม็ดเป็นอย่างมาก
  3. ใช้บำรุงผิวหน้าให้ขาวสดใส รักษาฝ้า ด้วยการนำมะขามป้อมมาฝนกับฝาละมีแล้วนำน้ำที่ได้มาทาบริเวณรอยฝ้า
  4. ช่วยบำรุงสุขภาพผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย
  5. ช่วยบำรุงและรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพแข็งแรง ผมนุ่มลื่น ป้องกันผมหงอก ด้วยการทอดมะขามป้อมกับน้ำมันมะพร้าว แล้วเอาน้ำมันมาหมักผม
  6. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
  7. ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
  8. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  9. เป็นผลไม้ที่ช่วงบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยช่วยบำรุงอวัยวะแทบจะทุกส่วนของร่างกาย
  10. ช่วยบำรุงโลหิตได้เป็นอย่างดี
  11. มะขามป้อมมีเป็นยาแก้หวัด แก้ไอ และละลายเสมหะได้อีกด้วย โดยใช้ผลสดประมาณ 30 ผล นำมาคั้นเอาน้ำหรือนำมาต้มทั้งผลแล้วดื่มแทนน้ำ ทั้งนี้ควรเลือกมะขามป้อมที่แก่จัด ผิวออกเหลืองจะได้ผลดีที่สุดในการรักษาอาการไอและหวัด
  12. ใบสดมะขามป้อมนำมาต้มน้ำอาบ ลดอาการไข้
  13. น้ำมะขามป้อมมีฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง
  14. มะขามป้อมเป็นตัวช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาล ลดไขมันในเลือดได้ด้วย
  15. ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
  16. ใช้แก้อาการปวดฟันได้ ด้วยการใช้ปมกิ่งก้านต้มกับน้ำแล้วนำมาอมบ้วนปากบ่อย ๆ
  17. รสเปรี้ยวของมะขามป้อมช่วยในการละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้เป็นอย่างดี
  18. รากแห้งมะขามป้อม นำมาต้มดื่มแก้อาการท้องเสีย ร้อนใน ความดันโลหิต
  19. ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
  20. ช่วยลดอาการแทรกซ้อนทางตาจากโรคเบาหวานได้อีกด้วย
  21. มะขามป้อมเป็นส่วนประกอบใช้สำหรับการรักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัณโรค รักษาภาวะของโรคเอดส์
  22. มะขามป้อมแห้งช่วยรักษาโรคบิด ใช้ล้างตา รักษาตาแดง ตาอักเสบได้
  23. มะขามป้อมแห้ง เมื่อนำมาผสมน้ำสนิมเหล็กจะช่วยแก้โรคดีซ่านได้
  24. รักษาโรคบิด
  25. ใช้ล้างตา แก้ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ
  26. แก้ตกเลือด ใช้เป็นยาล้างตา
  27. รักษาโรคดีซ่าน
  28. ทาแก้ตุ่มคัน หืด
  29. รักษาโรคเบาหวาน
  30. รักษาโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ
  31. แก้คลื่นไส้ อาเจียน
  32. ต้านอนุมูลอิสระและยังยั้งการสร้างเมลานินได้
  33. บำรุงผิวขาว และช่วยชะลอความแก่
  34. แก้ไอ ละลายเสมหะ
  35. แก้ตานซางในเด็ก
  36. แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี
  37. ช่วยขับปัสสาวะ
  38. เป็นยาระบาย
  39. รักษาคอตีบ
  40. รักษาเลือดออกตามไรฟัน
  41. เป็นยาถ่ายพยาธิ
  42. แก้ท้องเสีย
  43. รักษาโรคหนองใน
  44. บำรุงธาตุ

วิธีการทำน้ำ มะขามป้อม แช่อิ่ม เพื่อสุขภาพ

  1. วัตถุดิบที่ต้องเตรียม มะขามป้อมสด 1 กิโลกรัม / เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำตาลใส 4 ช้อนโต๊ะ / น้ำปูนใส
  2. ล้างมะขามป้อมให้สะอาด แล้วใช้มีดฝานตามยาวของผลให้ทั่ว แต่ไม่ต้องให้ถึงเมล็ด
  3. นำเกลือป่นมาใส่หม้อ ใส่น้ำพอประมาณ แล้วต้มจนเดือด
  4. เสร็จแล้วนำมาทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมะขามป้อมแช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ 1 คืน
  5. รุ่งเช้าให้นำมะขามป้อมมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 3 ชั่วโมง
  6. น้ำปูนใสได้จากการแช่ปูนแดง แล้วทิ้งไว้ให้ปูนนอนก้น ตักเอาแต่น้ำใส ๆ มาแช่มะขามป้อม
  7. เมื่อแช่จนครบกำหนด นำมาล้างน้ำอีกครั้งแล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ ต้มน้ำตาลทรายและใส่น้ำ ต้มให้น้ำเดือด แล้วกรองให้สะอาด ทิ้งไว้ให้เย็น
  8. หลังจากนั้นนำมะขามป้อมมาแช่ในน้ำเชื่อม ปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืน
  9. วันที่ 2 นำมะขามป้อมขึ้นจากน้ำเชื่อม เติมน้ำตาลลงในเชื่อมแล้วต้มให้น้ำตาลละลาย
  10. เมื่อน้ำเชื่อมเย็นแล้ว นำมะขามป้อมแช่อีกรอบ และทำเช่นนี้จนครบ 2 ครั้ง
  11. วันที่ 5 นำมะขามป้อมออก เอาแต่น้ำเชื่อมไปต้มให้เดือด ทิ้งไว้จนเย็น แช่มะขามป้อมใส่น้ำเชื่อมอีกจนกระทั่งน้ำเชื่อมซึมเข้าเนื้อมะขามป้อมจนเห็นเป็นเนื้อใส ๆ เป็นอันเสร็จรับประทานได้เลย

 

มะขามป้อม
สมุนไพรมะขามป้อม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ชุ่มคอ ยาน้ำแก้กระหายช่วยในการละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้เป็นอย่างดี

 

ประโยชน์จากยาน้ำ มะขามป้อม แก้ไอ ช่วยกระตุ้นให้น้ำลายออก ช่วยละลายเสมหะ มีวิธีใช้ดังนี้

• ใช้เนื้อผงสด ครั้งละ 2-5 ผล โขลกพอแหลก แทรกเกลือเล็กน้อย อม หรือ เดี่ยว วันละ 3-4 ครั้ง
• ผลมะขามป้อมสดฝนกับน้ำแทรกเกลือจิบบ่อยๆ หรือใช้ผลมะขามป้อมสดจิ้มเกลือรับประทาน
• ผลสดตำคั้นเอาน้ำดื่ม หรือผลแห้ง 6-12 กรัม (ผลสด 10-30 ผล) คั้นน้ำดื่มหรือเคี้ยวอมบ่อยๆ
• อาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปากคอแห้ง ใช้ผลสด 15-30 ผล คั้นเอาน้ำ มาจากผล หรือต้มทั้งผลแล้วดื่ม แทนน้ำเป็นครั้งคราว
• บำรุงร่างกายให้แข็งแรง มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาด ขม เช่นเดียวกับสมอไทย จึงสามารถ แก้โรคต่างๆ ได้มาก เช่นเดียวกับสมอไทย ดื่มน้ำมะขามป้อมคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) กับน้ำมะระขี้นกคั้นสด 1 ถ้วย ทุกวันเป็นเวลาสองเดือนสามารถกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่นอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือด
• ท้องผูก นำมะขามป้อมมาผ่าแคะเม็ดออก (กินแต่เนื้อ) ประมาณ 10 ลูก ใส่พริก เกลือ น้ำตาล ตำพอแหลก กินต่างผลไม้ แต่ควรกินก่อนนอน หรือตอนตื่นนอนใหม่ๆ ในขณะที่ท้องว่าง
• รับประทานมะขามป้อมเป็นยาแก้ไอผสมมะขามป้อม
สูตรตำรับที่ 1 ในยา 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วย สารสกัดน้ำมะขามป้อมเข้มข้น (ความเข้มขัน 40 เปอร์เซ็นต์) 60 มิลลิลิตร สารสกัดใบเสนียด (ความเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์) 10 มิลลิลิตร กลีเชอรีน 5 มิลลิลิตร สารสกัดรกชะเอมเทศ 0.45 มิลลิลิตร เกลือแกง 0.5 กรัม เกล็ดสะระแหน่ 0.01 มิลลิกรัม
สูตรตำรับที่ 2 ในยา 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วย สารสกัดน้ำมะขามป้อมเข้มข้น (ความเข้มข้น 25 เปอร์เซ็นต์) 30 มิลลิลิตร มะนาวดอกแห้ง 8 กรัม สารสกัดรากชะเอมเทศ 5 มิลลิลิตร ผิวส้มจีน 3.3 มิลลิกรัม บ๊วย 3 มิลลิกรัม เนื้อลูกสมอพิเภก 3 กรัม เนื้อลูกสมอไทย 1 มิลลิกรัม หล่อฮังก๊วย 2 มิลลิกรัม เกล็ดสะระแหน่ 0.08 มิลลิกรัม น้ำตาลทรายแดง 40 มิลลิกรัม

 

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กองโภชนาการกระทรวงสาธารณสุข

http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=258
2. รายงานผลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ผลไม้ป่า”มะขามป้อม”เพิ่มคุณค่าอาหารกลางวัน.ชุมนุมอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชโรงเรียนบ้านหนองไผ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3 ร่วมกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครสวรรค์.หน้า6-15
3. แฉล้ม มาศวรรณา และนิวัฒน์ มาศวรรณา.มะขามป้อมสมุนไพรของคุณค่ากสิกร เกษตรน่ารู้. น.ส.พ.กสิกรปีที่ 82 ฉบับที่ 2 มีนาคม – เมษายน 2552 หน้า 53 – 60
4. ภกญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร.มะขามป้อมสมุนไพรที่ไม่ควรมองข้าม.นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 309 คอลัมน์ เรื่องเด่นจากปก. มกราคม 2548
5. ชนิดา กานต์ประชา, ชาญณรงค์ นาคจำรัสศรี , วิศรุต บูรณสัจจะ . 2548.การแยกสาระสำคัญในสารสกัดมะขามป้อม . คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,กรุงเทพฯ
6. มะขามป้อม.ฐานข้อมูลเครื่องยา.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.(ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=101
7. Takachi, F., M. Wakaizumia, T Ikamiband M, Saitoa.2008.Amla (Emblica officinalis Gaertn.) extract promotes procollagen produc tion and inhibits matrix metalloproteinase-1 in human skin fibroblasts. Joumal of Ethnophamacology.119:53-57
8. มะขามป้อม.สมุนไพรล้างพิษ.สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย.(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
http://www.tmri.dtam.moph.go.th/heab/makampom.php