“ม่อนแจ่ม” ส่อวุ่นซ้ำ! จนท.ป่าไม้นำกำลังเตรียมรื้อถอนรีสอร์ต 5 แห่ง ชาวบ้านระดมคนขัดขวาง

เชียงใหม่ – เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังเตรียมเข้าถอนสิ่งปลูกสร้างผู้ประกอบการที่พักรีสอร์ต 5 แห่งบน “ม่อนแจ่ม” หลังตรวจสอบพบผิดรุกป่าชัดเจน ให้โอกาสแล้วแต่ยังดื้อแพ่ง แต่ยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ เนื่องจากชาวบ้านรุกฮือระดมคนคัดค้านขัดขวาง

 

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เช้าวันนี้ (29 ส.ค. ) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อนนายเตรียมเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะเป็นที่พักโรงแรมและรีสอร์ต 5 แห่ง ในพื้นที่ม่อนแม่แจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ หลังสวนโฮมสเตย์, ม่อนดาวเรือง, ม่อนดูดาว, ม่อนแสงระวี และแสงเหนือแคมป์ปิ้ง หลังจากที่ตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมายแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายป่าไม้ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ทั้งการบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติม และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือ รวมทั้งมีการให้นอมินีถือครองใช้ประโยชน์แทนนายทุน ตลอดจนกระทำความผิดตาม พ.ร.บโรงแรม และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้เริ่มดำเนินการปรากฏว่าทางกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากได้รวมตัวกันคัดค้านและขัดขวางการดำเนินการรื้อถอนดังกล่าวด้วยความไม่พอใจ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชะลอการรื้อถอนออกไปและต้องให้ศาลมีคำสั่ง

นายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ เปิดเผยว่า วันนี้ทางกรมป่าไม้ได้อนุมัติให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการจำนวน 5 แห่ง คือ ม่อนแสงระวี ม่อนดาวเรือง ม่อนดูดาว หลังสวนโฮมสเตย์ และแสงเหนือแคมป์ปิ้ง โดยจะมีการจัดกำลังแบ่งเป็น 5 ชุดเพื่อทำการรื้อถอน แต่ต้องประเมินสถานการณ์เนื่องจากชาวบ้านมีการรวมตัวกันและอาจจะเกิดการปิดล้อมขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 400 นายเพื่อมาร่วมอำนวยความสะดวก แต่หากไม่สามารถทำงานตามจุดที่แบ่งกำลังไว้ได้ก็อาจจะต้องปรับมารื้อถอนทีละจุด

ส่วนต้นเรื่องทั้งหมดของปัญหามาจากการสำรวจพื้นที่ของกรมป่าไม้จาก 122 ราย พบว่ามี 36 รายที่แยกออกมาไม่เข้าเงื่อนไข และส่งดำเนินคดี เนื่องจากทั้ง 36 รายนั้นพบว่ามีการขยายพื้นที่เพิ่ม ซื้อขายเปลี่ยนมือ มีนายทุน และต่างชาติถือครอง ซึ่งมีการพิสูจน์ชัดเจนแล้วทั้ง 36 ราย พร้อมถูกดำเนินคดีและส่งฟ้องศาล ปัจจุบันมี 4 คดีที่สิ้นสุดสั่งจำคุกแล้ว ในจำนวนนี้มี 10 รายที่ทำการรื้อถอนเองออกไปแล้ว ซึ่งป่าไม้ได้ให้โอกาสครบทุกกระบวนการแล้วมาตั้งแต่ปี 63 ส่วนอีก 86 รายไม่ได้ดำเนินคดี พ.ร.บ.ป่าไม้ จะต้องมี พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.โรงแรม เข้ามาเกี่ยวข้องในการตรวจสอบควบคุม เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่อ่อนไหวอยู่ในเขตต้นน้ำชั้น 1 โดยวันนี้จึงมาทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการ 5 ราย ตามคำสั่งของกรมป่า

รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ล่าสุดทางกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ม่อนแจ่มต่างพากันรวมตัวคัดค้านการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในครั้งนี้ และมีการระดมคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าที่ผ่านมามีการแจ้งให้ทำการรื้อถอนในส่วนที่ผิดกฎหมายและไม่บุกรุกก่อสร้างเพิ่มเติม แต่ยังมีการฝ่าฝืนต่อเนื่อง จึงต้องบังคับใช้กฎหมายและนำกำลังเข้าทำการรื้อถอน