ละมุด
ละมุด ชื่อสามัญ Sapodilla
ชื่อวิทยาศาสตร์ Manilkara zapota (L.) P.Royen (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Manilkara achras (Mill.) Fosberg) จัดอยู่ในวงศ์พิกุล (SAPOTACEAE)
ละมุด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ละมุดฝรั่ง (ภาคกลาง), ชวานิลอ (ปัตตานี, มลายู, ยะลา), สวา เป็นต้น เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบชนิดหนึ่ง ผลมีรสหวานหอมนิยมรับประทานเป็นอาหารว่างและนิยมรับประทานในประเทศไทย ผลละมุดสุกมีน้ำตาลสูง และประกอบไปด้วยวิตามินเอและซี ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส ละมุดดิบมียางสีขาวเหมือนน้ำนม มีสารที่ชื่อว่า “gutto” ละมุดมีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกคือ ชวานิลอ (ปัตตานี,มลายู ยะลา
ละมุดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพุ่มทึบ กิ่งก้าน แตกออกรอบลำต้นเป็นชั้น ๆ ใบเดี่ยว ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเขียว มักออกเป็นกระจุก ตามปลายกิ่ง ดอกเดี่ยว ออกตามง่ามกิ่ง กลีบรองดอกเรียงกัน เป็น 2 ชั้น กลีบดอกเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ มีสีเหลืองนวล ผลรูปไข่ หรือรูปปลายข้างหนึ่งแหลมเล็กน้อย มีสีน้ำตาล ผลยังไม่สุกมียางสีขาว รสฝาด แข็ง เมื่อสุกจะนิ่ม หวาน ไม่มียาง มีเมล็ดรูปยาว รี ผิวสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ผลละ 2-6 เมล็ด
เป็นผลไม้ที่มีรสหวาน กลิ่นหอม คนไทยและต่างชาตินิยมบริโภคเป็นของหวานหรือของว่าง เพราะละมุดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยมาก ต้นละมุด เป็นไม้ผลอีกชนิดที่น่าปลูก เพราะเมื่อต้นละมุดมีอายุมาก ยิ่งให้ผลดกมากเป็นเงาตามตัว ละมุดสามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินทราย ดินเหนียว หรือแม้แต่ดินลูกรังก็ตาม แถมต้นละมุดยังปลูกดูแลไม่ยากเหมือนกับไม้ผลชนิดอื่นๆ
ลักษณะที่เด่นๆของต้นผลไม้ ละมุด
- ต้นละมุด มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนแถว ๆ ประเทศเม็กซิโก อเมริกากลาง และอินเดียตะวันตก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง พุ่มทึบ มีกิ่งก้านแตกออกเป็นชั้น ๆ รอบ ๆ ลำต้น แหล่งที่ปลูกละมุดในบ้านเราก็ที่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี โดยสายพันธุ์ละมุดที่นิยมปลูกนั้นก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด นั่นก็คือ ละมุดไทย (ละมุดสีดา) และละมุดฝรั่ง
- ผลละมุด ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ หรือมีปลายแหลม ผิวมีสีน้ำตาล ผลดิบจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม ในยางมีสารที่ชื่อว่า “Gutto” รสฝาด แข็ง ส่วนผลสุกจะนิ่ม มีรสหวาน ไม่มียาง ข้างในผลมีเมล็ดรูปยาวรีสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ใน 1 ผลจะมีเมล็ดประมาณ 2-6 เมล็ด
- ใบละมุด ใบเป็นใบเดี่ยว มักออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเขียว
- ดอกละมุด ลักษณะของดอกละมุดเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกตามง่ามกิ่ง มีกลีบรองดอกเรียงกัน 2 ชั้น กลีบดอกจะเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ สีเหลืองนวล
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของผลไม้ ละมุด
- ยางใช้เป็นยาถ่ายพยาธิชนิดรุนแรง
- ละมุดเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมาก จึงช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย
- ใช้รับประทานเป็นผลไม้ ทำไวน์ หรือนำมาทำน้ำละมุด
- ยางที่มีสีขาวทุกส่วนของลำต้นสามารถนำไปใช้ทำหมากฝรั่งและรองเท้าบูทได้
- ละมุดมีวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคและช่วยป้องกันหวัดได้
- เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงกำลัง
- การรับประทานละมุดจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
- เปลือกของลำต้นละมุด นำมาต้มปรุงเป็นยาแก้บิด (ประเทศฟิลิปปินส์)
ละมุดเวียดนาม เป็นพันธุ์ไม้เด่นของประเทศเวียดนาม ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว ที่มาของละมุดเวียดนาม ที่เล่าต่อๆ กันก็คือ เกษตรกรชาวเวียดนามรายหนึ่งได้นำเมล็ดละมุดฝรั่งคุณภาพดีพันธุ์หนึ่งไปเพาะขยายพันธุ์ กับตอละมุดพื้นเมือง ปรากฏว่า เกิดการกลายพันธุ์ ได้ละมุดพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเด่นคือ ขนาดผลใหญ่ขึ้น ลักษณะผล มีทั้งผลกลมแป้นเล็กน้อยกับผลกลมรียาว ผลสุกเนื้อในเป็นสีแดงอมส้ม ไส้กลางเป็นสีขาว รสหวานจัดมาก ไม่เป็นเนื้อทราย กินอร่อย เนื้อหวาน กรอบ หวานกว่าละมุดสายพันธุ์อื่นๆ เนื้อไม่เละแม้สุกเต็มที่
คุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ต้น ละมุด
- วิตามินบี 6 0.037 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม 4%
- วิตามินซี 14.7 มิลลิกรัม 18%
- ธาตุแคลเซียม 21 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุเหล็ก 0.8 มิลลิกรัม 6%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 193 มิลลิกรัม 4%
- ธาตุโซเดียม 12 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม 1%
- พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
วิธีทำน้ำละมุด
ภายหลังจากนำพันธุ์ละมุดเวียดนามเข้ามาปลูกในประเทศไทย เกษตรกรนิยมเรียกกันติดปากว่า “ละมุดยักษ์สาลี่” หรือ “ละมุดพันธุ์สาลี่เวียดนาม” ลักษณะโดยทั่วไปของละมุดพันธุ์นี้ก็คือ ลำต้นสูง ประมาณ 3-5 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายกิ่ง ปลายใบแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกมีขนาดเล็กสีขาวนวล มีกลีบดอก 5 กลีบ ละมุดเวียดนามมีเมล็ดน้อย ประมาณ 3-5 เมล็ด ต่อผล เท่านั้น ต้นละมุดเวียดนามมักติดดอกออกติดผลเกือบทั้งปี สามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด
- วัตถุดิบที่ต้องเตรียมมีดังนี้ เนื้อละมุด 1 ถ้วย, เกลือป่น 1/4 ช้อนชา, น้ำแข็งทุบ 1 แก้ว, น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- นำผลละมุดมาปอกเปลือกและเอาเมล็ดออกเอาแต่เนื้อ แล้วใส่ลงไปในเครื่องปั่น
- หลังจากนั้นให้เติมเกลือ น้ำเปล่า และน้ำแข็งลงไปตามลำดับ
- ปั่นจนละเอียดให้เนื้อเข้ากัน
- นำมารินใส่แก้วเป็นอันเสร็จ ก็จะได้น้ำละมุดปั่นแบบเย็นชื่นใจช่วยดับกระหายได้ทันที
ละมุดเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรบริโภคเพียงเล็กน้อยและนานครั้ง ๆ และไม่ควรให้เด็กเล็กรับประทานละมุดโดยลำพัง หากต้องการให้เด็กรับประทานควรเอาเมล็ดออกก่อนพร้อมหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอคำที่เด็กจะสามารถเคี้ยวได้ เนื่องจากเมล็ดของละมุดมีความลื่นและมีโอกาสจะหลุดเข้าไปในหลอดลมได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ฟันยังขึ้นไม่ครบ ก็ควรจะบดให้ละเอียด และไม่ควรป้อนอาหารด้วยความรีบร้อนเพราะเด็กอาจจะสำลักติดคอได้
ต้นละมุดเวียดนาม เป็นไม้ชอบแดด สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย ไม่ชอบน้ำท่วมขัง หลังปลูกรดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น ใส่ปุ๋ยคอกเดือนละครั้งสลับกับปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 ทุกๆ 15 วัน หลังปลูกเมื่อต้นสูงประมาณ 3 เมตร จะเริ่มติดผลชุดแรก เมื่อต้นละมุดเวียดนามมีอายุมากขึ้น จะติดผลดกขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุของต้น เนื้อละมุดพันธุ์นี้จะไม่กรอบเมื่อสุก อายุเก็บเกี่ยว 8-9 เดือน
เคล็ดลับการเลือกซื้อละมุด อย่างแรกก็ให้ลองจับที่ผิวเบา ๆ ถ้าผิวไม่นุ่มมากก็ใช้ได้ ลักษณะภายนอกของผลผิวดูเกลี้ยงกลม มีสีน้ำตาลเป็นธรรมชาติและขั้วไม่หัก ก็จะได้ละมุดคุณภาพดี ๆ แล้ว
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย
เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สำนักหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (เต็ม สมิตินันทน์), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)