ส้ม ประโยชน์ของส้ม

ส้ม เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กหลายชนิด เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีด้วยกันนับร้อยชนิด เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอกขึ้นชื่อว่า “ส้ม” ใครๆ ก็ต้องคิดว่าต้องมาคู่กับวิตามินซีแน่นอน และก็ถูกต้องค่ะ เพราะส้มโอที่เรากำลังจะพูดถึงก็มีวิตามินซีเช่นกัน แต่ไม่ได้มีแค่วิตามินที่ว่าเท่านั้นที่ซ่อนอยู่ภายในส้มโอ

มีวิตามินอะไรบ้าง ? เช่น วิตามินซี วิตามินเอ (เบตาแคโรทีน) วิตามินบี วิตามินดี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน
สำหรับส้มที่เรานิยมแกะเปลือกแล้วกินสดๆ กันนั้นมีอยู่หลายสายพันธุ์ที่รสชาติดี อาทิ ส้มสายน้ำผึ้ง ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ กินอร่อย ส้มเขียวหวาน ส้มเกลี้ยง ส้มเช้ง ส้มแก้ว ส้มจุก

ส้มเป็นผลไม้ตระกูล Citrus ที่ให้ทั้งรสเปรี้ยวและหวาน จึงอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ที่เด่นที่สุดคือ ให้วิตามินซีสูง นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โปแตสเซียม แคลเซียม

ส้มที่มีเนื้อแน่น ผิวสีเหลืองทอง สวยงาม รสจะหวานนำอมเปรี้ยว มีน้ำมาก และมีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ

ส้ม คือผลไม้อย่างหนึ่งที่ผู้คนนิยมรับประทาน โดยนำมาประกอบอาหารหรือเป็นส่วนผสมขนม หรือรับประทานเพื่อหวังสรรพคุณทางยา

ส้ม ( Orange ) ผลไม้ที่ให้รสชาติเปรี้ยวนำและตามด้วยอมหวาน กลิ่นหอมของเปลือกนำไปสกัดน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้เจริญอาหาร นิยมปลูกทั่วโลก

ส้ม เป็นหนึ่งในผลไม้แก้ท้องผูกได้ เพราะมีใยอาหารสูง ช่วยในระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย โดยกินส้ม 1 ผลใหญ่ก็จะได้ใยอาหาร 2.0 กรัม. 2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ส้มมีวิตามินซี

ส้ม โชกุน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีลักษณะคล้ายส้มเขียวหวาน มีเนื้อแน่น สีสันสวยงาม รสชาติหวานแหลมอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีน้ำในปริมาณมากและมีวิตามินซีสูง

นอกจากการใช้ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญ ในการจำแนกพืชสวนแล้ว การจำแนกความแตกต่างของส้มแต่ละชนิด โดยใช้ลักษณะ ขนาด รูปทรงผล ผิวเปลือก สี เนื้อ รสชาติ