น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบ คือ ปิโตรเลียมที่มีสถานะเป็นของเหลวในธรรมชาติ ส่วนมากมีสีดำหรือน้ำตาล มีลักษณะเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆ ปะปนกันอยู่ และในบางครั้งอาจมีสารอื่น ๆ . ประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติและชนิดของไฮโดรคาร์บอน ที่ประกอบอยู่ คือ. น้ำมันดิบชนิดที่ไม่มีไขมาก
น้ำมันดิบ ประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและคาร์บอน รวมตัวกันเป็นไฮโดรคาร์บอนอะตอม … คือ เป็นก๊าซหุงต้ม (liquefied petroleum gas หรือ LPG) ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับหุงต้ม สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ที่มีอยู่ในน้ำมันดิบนั้นมีขนาดโมเลกุลตั้งแต่เล็กสุดคือ มีเทน (Methane) ซึ่งมีอะตอมของคาร์บอนเพียง 1 ตัว ไปจนถึงขนาดโมเลกุลที่ใหญ่มีอะตอมของคาร์บอน
กำมะถัน คือธาตุตัวเดียวกับที่ทำให้เวลาเราไปเที่ยวน้ำพุร้อนบางแห่งแล้วได้กลิ่นก๊าซไข่เน่านั่นเอง (ในกรณีนั้นคือในแอ่งของชั้นหินหรือชั้นดินนั้นๆ รวมหมายถึง “น้ำมันที่ได้จากหิน”) หรือ น้ำมันดิบ เป็นของเหลวไวไฟที่เกิดจากมนุษย์ … แบ่งตามสถานะได้เป็นสองชนิดหลัก คือ น้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ โดยแก๊สธรรมชาตินั้น ค่าเงินยูโร
กรรมวิธีการแยกน้ำมันดิบ คือ
การแยกส่วนประกอบทางกายภาพของน้ำมันดิบ ซึ่งส่วนมากจะแยกโดยวิธีการกลั่นลำดับส่วน (Fractional Distillation) ปิโตรเลียม เป็นวัสดุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในสถานะของของเหลว แก๊ส วัสดุกึ่งของแข็ง หรือของแข็งที่ผสมกันของสารจำพวกไฮโดรคาร์บอน น้ำมันดิบ (Crude oil) คือ ปิโตรเลียม
เป็นค่าที่แสดงความหนักเบาของน้ำมัน โดยปรกติน้ำมันดิบจะมีค่าความถ่วง API อยู่ระหว่าง 20-45 องศา และสามารถแบ่งน้ำมันดิบออกเป็น 3 ชนิด คือ น้ำมันดิบชนิดเบา มีค่าความถ่วง กระบวนการกลั่นน้ำมันดิบคือการเปลี่ยนสภาพน้ำมันดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปชนิดต่างๆตามความต้องการของตลาดและตามประเภทของการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน
น้ำมันดิบ (Crude Oil) มีสถานะตามธรรมชาติเป็นของเหลว ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติ “น้ำมันดิบ” ที่ขุดเจาะขึ้นมาจากกระบวนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนั้น จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่ง ขึ้นอยู่กับสารประกอบในแหล่งกำเนิด
สาเหตุที่้เป็นเช่นนี้ก็คือ ภาวะน้่ำมันดิบที่ล้นตลาดโลกสวนทางกับความต้องการใช้ที่ลดลงจากโควิด-19 ทำให้นักลงทุนไม่ต้องการรับน้ำมันดิบที่เป็นสินค้าจริงๆในรอบส่ง ค่าเงินยูโร