จัดฟัน แบบไหนดี

จัดฟัน

จัดฟัน คำถามยอดฮิตการจัดฟันครั้งแรก ทุกคำถามที่คนไข้มักถามคุณหมอ เช่น ขั้นตอนการจัดฟัน จัดฟันราคาเท่าไหร่ เจ็บไหม ปวดรึเปล่า วันแรกใส่เหล็กสีไหนดี เตรียมตัวยังไง.
เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าจะจัดฟันแน่นอน ต้องเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปรึกษาและตรวจสุขภาพในช่องปากเพื่อดูความผิดปกติต่าง ๆในช่อง ปากของเราก่อน เพราะบางทีเราอาจจะมีปัญหาในช่องปาก เช่น ฟันผุ ฟันคุด มีหินปูน ทันตแพทย์ก็จะทำการรักษาหรือแก้ไขให้เป็นปกติก่อนการ จัดฟัน และตรวจดูลักษณะของฟัน การสบฟัน ฟันยื่น ฟันห่าง ฟันเก

การจัดฟันวันแรกคุณหมอจะตรวจสุขภาพในช่องปากและทำการรักษาความผิดปกติต่าง ๆ หลังจากเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากและเอ็กซเรย์เพื่อวิเคราะห์ โครงสร้างกระดูกใบหน้าขากรรไกรและลักษณะของฟัน เพื่อวางแผน ในการจัดฟันและรักษา พร้อมทั้งจะประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน ทั้งหมดเพื่อแจ้งให้คนไข้ได้ทราบ คนไข้คือคนที่เลือกว่าจะใช้แผน ไหนในการจัดฟัน โดยตามความสะดวกของคนไข้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ คำแนะนำของทันตแพทย์ หากเราสงสัยอะไรก็ถามให้ชัดเจนไปเลย นะคะ เพราะหากคุณหมอเริ่มแผนในการจัดฟันแล้ว มาเปลี่ยนทีหลัง จะยุ่งยากกับทุกฝ่าย

ถ้าบอกว่าห้ามกินก็อาจจะดูใจร้ายไปสักนิด ดังนั้นหมอแนะนำหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ๆ นะค่ะ เพราะจะทำให้เหล็กจัดฟันเสียหายได้ และ การเคี้ยวอาหารแข็งๆจะทำให้ปวดฟัน อาหารแข็งๆที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถั่ว ข้าวโพดคั่ว น้ำเข็ง ขนมปังเนื้อแข็ง พิซซ่า เนื้อสัตว์มี กระดูก ผลไม้เป็นลูกที่ต้องใช้ฟันกัดโดยตรง แต่ถ้าหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก็สามารถกินได้ การจัดฟันไม่ได้ทำให้หน้าเรียวโดยตรง แต่การจัดฟันทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้มากเท่าเมื่อก่อนจึงทำให้ใบหน้าดูเล็ก หรือในบ้างเคสที่มีการจัดฟันร่วมกับการถอนฟัน ก็อาจจะทำให้รูปใบหน้าเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การดึงฟันล่างเข้า ทำให้คางชัดขึ้น หรือการดึงฟันบนเข้า ทำให้จมูกดูโด่งขึ้น

จัดฟันด้านใน หรือ ตัดฟ้นด้านใน (lingual Braces) เป็นการ ติดเครื่องมือด้านหลังฟัน ช่วยให้ไม่สามารถเห็นเครื่องมือ จากการพูดคุย หรือจากการยิ้มแย้มได้ การจัดฟันด้านใน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญฆาการเรียงตัวของฟันผิด ปกติ แต่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นสามารถสังเกตุเห็นเครื่องมือ ดัดฟันได้ เช่น ดารา นักแสดง ผู้บริหาร พนักงานสายการบิน เป็นต้น การดัดฟันแบบสีเหมือนฟัน วัสดุที่ใช้ในการดัดฟันได้รับการ พัฒนามากขึ้น ช่วยให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้สนใจ โดย นอกเหนือจากใช้วัสดุโลหะแบบทั่ว ๆ ไป ในการดัดฟันแบบ ติดแน่น ปัจจุบันได้มีวัสดุสีเหมือนฟันที่ช่วยให้วัสดุในการดัด ฟันเป็นที่สังเกตเห็นได้น้อยลงด้วย สิวอักเสบ

จััดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon หรือ จัดฟันแบบ 3M Clarity SL เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน (Self – ligation Braces) ทำให้การเคลื่อนฟันทำได้รวดเร็วขึ้น และยังเป็นระบบจัดฟันที่ช่วยลดระยะเวลาในการรักษาให้ น้อยลงกว่าเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันแบบเหล็กปกติ ลดความเจ็บปวดในการรักษาได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก ทันตแพทย์จัดฟันสามารถเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่าแบบเหล็ก ทั่วไป ทันตแพทย์จึงใช้แรงในการเคลื่อนฟันน้อยกว่า ผู้ป่วย จึงรู้สึกเจ็บปวดฟันหลังการปรับเครื่องมือน้อยกว่าการจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา การดัดฟันแบบโลหะธรรมดา เป็นวิธีการดัดฟันที่นิยมใช้ มานาน โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาขนาดของวัสดุที่ใช้ให้มี ขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกสะดวก เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งมียางสีต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย

นัดหมายเพื่อพบกับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ในการวางแผนการรักษาจัดฟัน และให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการจัดฟัน เพื่อให้คนไข้นำไปพิจารณาในการตัดสินใจจัดฟันโดยทันตแพทย์จะตรวจสภาพฟัน เพื่อดูว่าคนไข้สมควรจะจัดฟันหรือไม่ หากตรวจดูแล้วพบว่า การจัดฟันจะสามารถแก้ปัญหาฟันของคนไข้ได้
ทันตแพทย์ก็จะทำการพิมพ์ฟัน เพื่อทำแบบจำลองการสบฟัน เอ็กซเรย์กะโหลกศรีษะและใบหน้า รวมทั้งถ่ายภาพ เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนในช่องปาก และนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ในการวางแผนการรักษาในการจัดฟัน

ทันตแพทย์จะมีการนัดหมายเพื่อปรับอุปกรณ์เป็นระยะ ซึ่งแต่ละเครื่องมือจัดฟันก็จะมีการนัดหมายที่แตกต่างกันออกไป (โดยทั่วไปเดือนละ 1 ครั้ง) ซึ่งในการนัดหมายแต่ละครั้ง คนไข้ควรจะต้องมาให้ตรงตามนัด เพื่อให้แผนการรักษาไม่คลาดเคลื่อน และได้ผลที่ดีที่สุด สิวอักเสบ

นอกเหนือจากการนัดหมายทันตแพทย์เพื่อปรับอุปกรณ์แล้ว คนไข้ควรจะนัดตรวจสุขภาพฟัน ทำความสะอาด และขูดหินปูนตามปกติทุก ๆ 6 เดือนด้วย เพื่อป้องกันการเกิดเหงือกอับเสบระหว่างการจัดฟัน
หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์ ซึ่งคนไข้จะต้องใส่ต่อเนื่องไปตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงามตลอดไป โดยปกติแล้วการจัดฟันจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง – 3 ปี แต่ในบางรายอาจใช้เวลานานมากกว่านั้น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด และขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากผู้จัดฟันด้วยเป็นสำคัญ ว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้อย่างเคร่งครัดเพียงใด มาพบทันตแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอหรือไม่ ในช่วงเข้ารับการรักษา ทันตแพทย์จะทำการนัดตรวจทุก 1 เดือน เพื่อปรับเครื่องมือ และตรวจผลการรักษาเป็นระยะ ๆ (สำหรับการจัดฟันแบบปกติ)

อายุเท่าไรจึงควรเริ่มจัดฟันได้ ? อีกหนึ่งคำถามที่ถามกันมากที่สุด จริง ๆ แล้วการจัดฟันไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าควรจะเริ่มจัดฟันได้เมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความผิดปกติ แต่โดยทั่วไปแล้วการจัดฟันส่วนใหญ่มักจะเริ่มทำในเด็กที่มีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คือ ในช่วงอายุระหว่าง 10-14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กกำลังมีการเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการเจริญเติบโตของคนไข้มาช่วยในการรักษาความผิดปกตินั้น

แต่ในบางกรณีอาจจะต้องจัดฟันเร็วขึ้น เช่น ในเด็กที่มีความเคยชินที่ไม่ดีบางอย่าง เช่น ชอบดูดนิ้ว ลิ้นดุนฟัน กัดริมฝีปาก หายใจทางปาก แทะเล็บหรือกัดเล็บ เพราะนิสัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟันหรือมีผลต่อการเจริญเติบโตของโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรได้ ก็ควรจะเริ่มปรึกษาทันตแพทย์เพื่อแก้ไขอุปนิสัยที่ผิดปกติดังกล่าว ตั้งแต่ในระยะแรกที่ตรวจพบ

ใส่ความเห็น